กัญชา ประโยชน์ทางการแพทย์ รู้ก่อนใช้ไม่ผิดกฎหมาย

บทความที่ 1 (พย 66)

กัญชา ประโยชน์ทางการแพทย์ รู้ก่อนใช้ไม่ผิดกฎหมาย

            กัญชา เป็นพืชชนิดหนึ่งมีส่วนประกอบเป็นสารสำคัญหลายชนิดที่ให้ทั้งคุณและโทษ ในอดีตด้วยภูมิปัญญาชาวบ้าน กัญชาเป็นพืชสมุนไพรใช้รักษาอาการเจ็บป่วย รวมทั้งใช้บำบัดรักษาอาการบางอย่าง ต่อมาถูกระงับการใช้ เนื่องจากมีส่วนประกอบของสารที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ทำให้เกิดการเสพติด แต่รู้หรือไม่ ประโยชน์ทางการแพทย์ของกัญชา หากรู้ก่อนใช้ไม่ผิดกฎหมาย

กัญชา ยาเสพติดให้โทษประเภท 5

            กัญชา มีสารออกฤทธิ์สำคัญ คือ มีฤทธิ์ต่อสมอง ควบคุมความคิด อารมณ์ และพฤติกรรมของผู้เสพ

พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 ได้กำหนดให้กัญชาเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ปลูกและขายไม่ได้ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา สามารถปลูกกัญชาได้ในกรณีจำเป็น เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ การรักษาผู้ป่วย หรือการศึกษาวิจัยและพัฒนา รวมถึงการเกษตร พาณิชยกรรม วิทยาศาสตร์ หรืออุตสาหกรรมเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ด้วย และต้องได้รับอนุญาตจากเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา โดยความเห็นชอบจากคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ

กัญชา ครอบครองส่วนใด มีความผิดตามกฎหมาย

            กัญชา ฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาท แม้จะมีต่อมน้ำมันที่เป็นประโยชน์ทางการแพทย์ แต่ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ และตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข จัดให้กัญชาเป็นยาเสพติดประเภท 5 การครอบครองทุกส่วนของพืชกัญชา ทั้ง ใบ ดอก ยอด ผล ลำต้น รวมทั้งวัตถุหรือสารต่าง ๆ ที่มีอยู่ในพืชกัญชา เช่น ยาง หรือน้ำมันกัญชา ถือว่ามีความผิดตามกฎหมายและมีโทษอาญา หากนำเข้า ส่งออก ครอบครอง รวมถึงการเสพด้วย

กัญชา ใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ได้อย่างไร

            กัญชาเป็นพืชสมุนไพรชนิดหนึ่ง ทุกส่วนทั้งลำต้น ใบ ยอดอ่อน ราก และช่อดอกของกัญชา มีสารประกอบซึ่งมีสรรพคุณทางยา ในอดีตเรามักจะพบกัญชาในลักษณะของกัญชาสด กัญชาตากแห้ง กัญชาแห้งอัดเป็นแท่ง หรือเป็นก้อน โดยการตากหรืออบแห้ง แล้วบดหรือหั่นให้เป็นผงหยาบ ๆ ต่อมามีการนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ในหลายรูปแบบ เช่น

• การสูบช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและนอนหลับง่า
• การใช้สารสกัดจากกัญชาหยอดใต้ลิ้นเพื่อให้ยามีประสิทธิภาพในการออกฤทธิ์เร็วขึ้น
• การรักษาโรคทางผิวหนังจะใช้การทา
• ใช้เป็นยารับประทานในรูปแบบแคปซูล
• บำบัดรักษาอาการของโรค โดยการนวดด้วยน้ำมันกัญชา
• ใช้เป็นส่วนผสมในน้ำมันหอมระเหยสำหรับสูดดมช่วยให้รู้สึกสดชื่นผ่อนคลาย
• เคี้ยวกินใบสด ใช้เป็นเครื่องเทศในเมนูอาหาร
• ใช้ใบสด หรือใบตากแห้ง ชงน้ำร้อนดื่มเป็นน้ำชา

กัญชา และประโยชน์ทางการแพทย์ รู้ก่อนใช้ไม่ผิดกฎหมาย

            จากการศึกษาเกี่ยวกับการใช้กัญชาในการรักษาอาการและโรคต่าง ๆ พบว่ามีผลงานทางวิชาการระบุสรรพคุณของกัญชาที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ได้หลากหลาย ทั้งแพทย์แผนไทยและแผนปัจจุบัน จึงได้ให้การสนับสนุนมากมาย ปัจจุบัน ได้มีการปลดล็อคเพื่อให้การใช้ประโยชน์ของกัญชาทางการแพทย์ไม่ผิดกฎหมาย และสามารถปลูก ครอบครอง หรือนำกัญชามาใช้ประโยชน์ เช่น ผลิตอาหารเสริมกัญชา เป็นส่วนประกอบในอาหาร และเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ และนำมาใช้ประโยชน์ในด้านอื่น ๆ อย่างถูกตามกฎหมาย แต่ผู้ที่ได้รับสิทธิ ได้แก่องค์กรต่าง ๆ รวม 8 กลุ่มต่อไปนี้เท่านั้น

1. หน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่ศึกษาวิจัย หรือมีการเรียนการสอนด้านการแพทย์ หรือเกษตรศาสตร์
2. หน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่ป้องกัน ปราบปรามและแก้ปัญหายาเสพติด หรือสภากาชาดไทย
3. ผู้ประกอบวิชาชีพเครือข่ายแพทย์แผนไทย และหมอพื้นบ้านตามเงื่อนไขที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด
4. สถาบันอุดมศึกษาที่ศึกษาและวิจัย และเรียนด้านการแพทย์
5. ผู้ประกอบอาชีพเกษตรที่รวมตัวเป็นวิสาหกิจชุมชนซึ่งจดทะเบียนตามกฎหมาย
6. ผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะระหว่างประเทศ
7. ผู้ป่วยที่เดินทางระหว่างประเทศที่มีความจำเป็นต้องใช้ยาเสพติดและพกติดตัว
8. ผู้ขออนุญาตที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเห็นชอบ ทั้งนี้ผู้ที่ได้รับอนุญาตสามารถส่ง

ต่อให้ทายาทหรือผู้ที่ได้รับความยินยอมได้ กรณีที่ผู้ได้รับอนุญาตเสียชีวิตก่อนใบอนุญาตสิ้นอายุ

สรุป

            กัญชาเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 การครอบครองทุกส่วนของพืชกัญชา ทั้ง ใบ ดอก ยอด ผล ลำต้น วัตถุหรือสารต่าง ๆ ที่มีอยู่ในพืชกัญชา ถือว่ามีความผิดตามกฎหมายและมีโทษอาญา แต่ปัจจุบันได้มีการปลดล็อกกัญชาออกจากการเป็นสารเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 และด้วยสรรพคุณทางสมุนไพรของกัญชาทำให้มีการนำส่วนต่าง ๆ ของกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ รวมทั้งใช้เป็นส่วนประกอบในอาหารและเครื่องดื่มหลากหลายเมนู และยังมีผลิตภัณฑ์จากส่วนประกอบของกัญชาผลิตออกมาจำหน่ายในท้องตลาดโดยไม่ผิดกฎหมาย แต่ทั้งนี้ผู้ประกอบการต้องเป็นองค์กรที่มีคุณสมบัติครบ ตรงตามกฏหมายกำหนด